CARDIO TRAINING

นักเล่นเวทหลายต่อหลายคนละเลยไปเรื่องนึงครับ นอกจากจะเล่นเวท หรือ weight-training แล้ว การพัฒนาร่างกายอย่างสมบูรณ์ ต้องบริหารแบบ cardiovascular หรือ aerobic ด้วย

การยกเวทอย่างเดียวทั้งปีทั้งชาติ จะทำให้เราตัวใหญ่ หัวใจเล็กครับ ขาดสมดุลย์ มีแรงยกสิ่งของในชีวิตประจำวันก็จริง แต่ยกนานๆ ต่อเนื่องจะไม่ไหว หรือเดินขึ้นบันไดซักสองชั้นก็หมดแรงแล้ว

ถ้าเป็นสมาชิดฟินเนสเซ็นเตอร์ก็ดีหน่อย เพราะจะมีอุปกรณ์ cardio ให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ ลู่วิ่งไฟฟ้า เครื่อง elliptical จักรยานนั่งตรง จักรยานนั่งเอน กรรเชียงบก เต้น aerobic ฯลฯ แต่ต้องแนะนำว่าทำหลังการเล่นเวทนะครับ มิฉะนั้นจะไม่มีแรงยกเวท

ในกรณีนี้ขอแยกแยะระหว่าง warm-up กับ cardio นะครับ เพราะการ warm-up เราจะปฏิบัติไม่นาน 10-15 นาที ไม่ออกแรงหนัก เอาพอให้กล้ามเนื้ออุ่นขึ้น แต่ cardio นั้นเราพูดถึงไม่ต่ำกว่า 30 นาที ให้ได้ระยะทาง ระยะเวลา และความเร็ว ให้ได้มากที่สุด (แต่ไม่ต้องถึงขนาดหัวใจหยุดเต้นนะครับ) และให้เหงื่อหยดเป็นสายน้ำไหลเลย

สำหรับกลุ่มที่ไม่มีอุปกรณ์ cardio เป็นพิเศษ ผมขอแนะนำ การวิ่ง ครับ เพราะการลงทุนต่ำ เพียงแต่ขอให้มีพื้นที่ในการวิ่งเท่านั้น เช่น สวนสาธารณะ ถนนไฮเวย์ยาวๆ โล่งๆ หรือในหมู่บ้านจัดสรร

อีกอย่างหนึ่งคือ ให้ซื้อรองเท้าวิ่งดีๆ ซักคู่นึงครับ พันกว่าบาทก็พอซื้อได้แล้ว ไม่ต้องระดับ 3-4 พันหรอกครับ

เรื่องรองเท้าก็มีเรื่องเล่าครับ ครั้งนั้นไม่ได้เอารองเท้าตัวเองไปฟิตเนส ขอยืมรองเท้าเขาวิ่ง เป็นรองเท้าผ้าใบแบบที่นักเรียนใส่ พื้นรองเท้าสีเขียว ไม่ต้องบอกยี่ห้อแล้วกัน ก็วิ่งได้ไม่เป็นปัญหา กลับบ้านนอน ไม่รู้สึกว่าผิดปกติอะไร

แต่ไม่ถึง 24 ชั่วโมงให้หลังรู้เรื่องเลย เดินๆ อยู่ มันเหมือนกับเข่าขวาไม่มีแรง ทรุดลงไป เหมือนจะเสียศูนย์จะล้มไปกับพื้น จากนั้นก็เจ็บเข่า ถึงพอจะเดินเหินได้ แต่วิ่งไม่ได้ครับ กว่าจะหาย เรื่องยาวครับ แล้วจะหาโอกาสมาเล่าต่อๆ ไป

สรุปคือขอให้ลงทุนในรองเท้าวิ่งดีๆ ซักคู่ครับ

เริ่มต้นวันแรกก็เดินเอาครับ แล้วเดินเร็วขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็วิ่งเหยาะๆ เหนื่อยก็เดิน เดินเร็วขึ้น แล้ววิ่ง จนวันหนึ่งเราก็จะวิ่งได้ตลอดโดยไม่ต้องเดิน จากนั้นก็พยายามเพิ่มระยะทาง และ/หรือ ความเร็ว และ/หรือ ระยะเวลา

ถ้าจะหวังผลพอดีๆ ผมว่าครั้งละ 30 นาที สัปดาห์ละ 3 วัน ก็พอครับ จะช่วยให้การเล่นเวทของเราสมบูรณ์แบบมากขึ้น

Share on